การจัดงานสัมมนาผลงานวิจัยนานาชาติ ครั้งที่
๘
สถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ร่วมกับหอจดหมายเหตุพุทธทาส
อินทปัญโญ และมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานีได้จัดสัมมนาผลงานวิจัยนานาชาติ
ครั้งที่ ๘ ในหัวข้อ “พุทธธรรมกับสังคม” (Dhamma and Society) ในโอกาสครบรอบชาตกาล ๑๑๑ ปี พุทธทาสภิกขุ แบ่งการสัมมนาเป็น ๔ ประเด็นสำคัญ ได้แก่ ๑) จิตใจและปัญญาญาณ (Mind
& Spirituality) ๒) เศรษฐกิจและการพัฒนาที่ยั่งยืน (Economic
& Sustainable Development) ๓) สังคมกับการเมือง (Socio-politics)
และ ๔) การสานงานของพุทธทาสภิกขุ (The Works and Legacy of
Buddhadasa Bhikkhu) โดยกิจกรรมจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๒๔ พฤษภาคม – ๒
มิถุนายน ๒๕๖๐
วันที่ ๒๔ – ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ได้จัดสัมมนาวิชาการนานาชาติ ณ
หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ เขตจตุจักร กรุงเทพฯ โดยมีพระพรหมบัณฑิต, ศ.ดร. อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เป็นประธานเปิดงาน
มีนักวิชาการ นักวิจัย ทั้งภายในและต่างประเทศเข้าร่วมนำเสนอบทความวิชาการ
และบทความวิจัยจำนวน ๑๕ ประเทศ มีบทความวิจัยนำเสนอ จำนวน ๒๖ เรื่อง มีผู้เข้าร่วมสัมมนาประมาณ
๒๕๐ รูป/คน พร้อมกันนี้ มีการมอบรางวัลผลงานวิจัยและนักวิจัยดีเด่น ประจำปี ๒๕๕๙
จำนวน ๑๘ รางวัล
จากนั้น วันที่ ๒๖ พฤษภาคม – ๒ มิถุนายน ๒๕๖๐ ได้จัดกิจกรรมตามรอยพุทธทาส ดนตรีภาวนา และ กิจกรรมล้ออายุ ณ วัดธารน้ำไหล สวนโมกขพลาราม สุราษฎร์ธานี กิจกรรมปฏิบัติธรรม ณ สวนโมกข์นานาชาติ สุราษฎร์ธานี และกิจกรรมปฏิบัติธรรม ณ ทีปภาวันธรรมสถาน เกาะสมุย สุราษฎร์ธานี
การประชุมวิชาการระดับชาติ ครั้งที่ ๑ วิทยาเขตแพร่
สถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ ร่วมกับมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
วิทยาเขตแพร่ ได้จัดการประชุมวิชาการระดับชาติ
ครั้งที่ ๑ ในหัวข้อ “การจัดการวัฒนธรรมเชิงพระพุทธศาสนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Buddhist Culture Management)”
เมื่อวันที่ ๒๓-๒๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๐ ณ
หอประชุมนวมินทราชูทิศโกศัยนคร มจร
วิทยาเขตแพร่ เพื่อเป็นเวทีสาธารณะด้านการวิจัยและวิชาการ ให้คณาจารย์
นักวิจัย นักวิชาการและนิสิตได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้
นำไปสู่การสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการ และตอบสนองความต้องการของสังคม โดยมีพระพรหมบัณฑิต,ศ.ดร. อธิการบดี,
ประธานคณะกรรมการประจำสถาบันวิจัยพุทธศาสตร์เป็นประธานประชุมวิชาการระดับชาติ
และกล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง "๓๐ ปี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
วิทยาเขตแพร่" ในการนี้สถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ได้เชิญศาสตราจารย์
ดร. Fukui
Hayao จากมหาวิทยาลัยเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
เพื่อร่วมการเสวนาฉลองความสัมพันธ์ทางการทูต ครบรอบ ๑๓๐ ปี ไทย – ญีปุ่น ตามนโยบายโครงการศาสตราจารย์อาคันตุกะ
(Visiting Professor) อีกด้วย
การประชุมชี้แจงแผนการดำเนินงานและแนวทางการติดตามงบประมาณบูรณาการการวิจัยและนวัตกรรม
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑
เมื่อวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๐
สถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ โดยพระมหาเสรีชน นริสฺสโร ผู้อำนวยการส่วนงานบริหาร
และนายบดินทร์ภัทร์ สายบุตร
ได้เข้าร่วมโครงการการประชุมชี้แจงแผนการดำเนินงานและแนวทางการติดตามงบประมาณในลักษณะบูรณาการการวิจัยและนวัตกรรม
ประจำปีงบประมาณ พ. ศ. ๒๕๖๑ ณ ห้องจูปิเตอร์ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น
กรุงเทพฯ ซึ่งจัดโดยสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.)
โดยมีวัตถุประสงค์ชี้แจงและสร้างความเข้าใจร่วมกันเกี่ยวกับแผนการดำเนินงานและแนวทางการติดตามงบประมาณในลักษณะบูรณาการ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑
และเพื่อรับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อการใช้ระบบ NRMS ทั้งนี้
ที่ประชุมได้แจ้งให้หน่วยงานภาครัฐที่ได้รับจัดสรรงบประมาณดำเนินการรายงานผลสำเร็จของงานวิจัยในระบบ
NRMS และรายงานการนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ (NRMS - Research evaluation) อีกด้วย
ประชุมผู้เชี่ยวชาญนานาชาติ เรื่อง
"การพัฒนาชนบทเพื่อขจัดความยากจนในเอเชีย" (Revitalizing
Rural Development for Poverty Eradication in Asia)
เมื่อวันที่ ๒-๔ สิงหาคม ๒๕๖๐ สถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ โดยพระสุธีรัตนบัณฑิต ผู้อำนวยการได้เข้าร่วมประชุมผู้เชี่ยวชาญนานาชาติ เรื่อง "การพัฒนาชนบทเพื่อขจัดความยากจนในเอเชีย" (Revitalizing Rural Development for Poverty Eradication in Asia) จัดโดยมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยมีแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วม อาทิ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, นายสมหวัง พ่วงบางโพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี, ผศ.นิธินันท์ วิศเวศวร รักษาการรองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ และคณบดีวิทยาลัยนานาชาติปรีดี พนมยงค์, ผศ.จิตติ มงคลชัยอรัญญา คณบดีวิทยาลัยพัฒนศาสตร์ ป๋วย อึ๊งภากรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รวมทั้งนักวิชาการจากนานาประเทศในทวีปเอเชียเข้าร่วมประชุมกว่า ๓๐๐ คน ผลการประชุมพบว่า ความยากจนในเอเชีย ส่วนหนึ่งมาจากโครงสร้างทางสังคม นโยบายภาครัฐ การจัดการทรัพยากรที่ไม่เป็นธรรม และจากการขาดภูมิปัญญาในการดำเนินการของคนในสังคม ดังนั้น การเสริมสร้างทางปัญญา การจัดการเชิงนโยบาย การเสริมพลังอำนาจให้ชุมชน การพึ่งพาตนเอง จักเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาชนบท และควรให้ความสำคัญในแนวทางจัดการศึกษา ๓ ประการที่สำคัญ คือ การให้โอกาสที่ดีที่สุดแก่เด็กและเยาวชนของไทย ลดความเหลื่อมล้ำในระบบการศึกษา และพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้เกิดขึ้น รวมทั้งมีการประชุมระดมสมองเพื่อจัดทำข้อเสนอในระดับนานาชาติถึงการพัฒนาชนบทที่ควรจะเป็นในอนาคตอีกด้วย
การเข้าร่วมงาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ ๒๕๖๐” (Thailand Research Expo 2017)
สถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ ได้เข้าร่วมงาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ ๒๕๖๐” (Thailand
Research Expo 2017) ซึ่งจัดขึ้นโดยสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
(วช.) ร่วมกับหน่วยงานเครือข่ายในระบบวิจัยทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ ๒๓-๒๗ สิงหาคม
๒๕๖๐ ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ
ภายใต้แนวคิด “วิจัยเพื่อพัฒนาประเทศสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง
และยั่งยืน” ได้ส่งผลงานวิจัยร่วมจัดนิทรรศการ จำนวน ๒
เรื่อง ได้แก่ ๑) การอนุรักษ์และพัฒนาแหล่งโบราณคดีตำบลนครชุม อำเภอเมืองกำแพงเพชร
จังหวัดกำแพงเพชร โดย พระราชวชิรเมธี,
ผศ.ดร. วิทยาเขตนครสวรรค์ และ ๒)
รูปแบบการพัฒนาบึงน้ำขนาดใหญ่แบบมีส่วนร่วมในสังคมไทย โดย ดร.อัครเดช พรหมกัลป์
วิทยาเขตนครสวรรค์ มีวิทยากรหลักสูตรการพัฒนานักวิจัย” (แม่ไก่)
ภาคบรรยาย จากเครือข่ายมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ที่ผ่านการรับรอง จำนวน
๖๓ รูป/คน เข้ารับเกียรติบัตรจาก พลอากาศเอก ดร.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
(วช) ได้มอบโล่ขอบคุณแก่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยในฐานะส่วนงานที่นำผลงานและกิจกรรมเข้าร่วมนำเสนอในงาน
“มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ ๒๕๖๐”
การนำเสนอผลงานวิจัยนานาชาติที่ประเทศจีน
เมื่อวันที่
๑๐-๑๑ ธันวาคม ๒๕๖๐ สถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ โดยพระสุธีรัตนบัณฑิต, ดร. ผู้อำนวยการ
ได้เข้าร่วมงานสัมมนานานาชาติประจำปี 2017 ภายใต้หัวข้อ " Teaching
Buddhism in Metropolitan Cities: Urban Buddhism and Its Propagating Patterns
" ณ นครเซียงไฮ้ และนำเสนอผลงานวิจัยเรื่อง "Buddhism
and Social Development: Concept and Process in Globalization Age"
การประชุมสัมมนาดังกล่าว
จัดโดยคณะสงฆ์จีนโดยวัดพระหยก (Jade Buddha
Temple) แห่งนครเซียงไฮ้ โดยมีผู้แทนจากประเทศต่างๆ
ในเอเซียเข้าร่วมสัมมนา เช่น ฮ่องกง
ไต้หวัน ไทย รัสเชีย
และพระสงฆ์จีนในพื้นที่ต่างๆ ของจีนเข้าร่วมประชุม
ผลการสัมมนาโดยภาพรวมพบว่า บทบาทและกระบวนการทำงานของพระสงฆ์เป็นลักษณะของพระพุทธศาสนาเพื่อสังคมมากขึ้น
(Socially Engaged Buddhism) มีการยกตัวอย่างของ
ดร.เอ็มเบดการ์ อินเดีย ขบวนการสรรโวทัยของศรีลังกา องค์กรฉื้อจี้ ไต้หวัน
การศึกษาเพื่อสันติภาพของหลวงพ่อสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ. ปยุตโต)
การทำงานของท่านติช นัท ฮันห์ เวียดนาม และบทบาทของพระในเมืองและชนบททั้งไทยและจีน
โดยเฉพาะการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ
และเพิ่มให้บทบาทของพระสงฆ์ในแต่ละวัดช่วยดูแลสังคม การสร้างสัมมาชีพ
การดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย
สอดคล้องกับการทำงานของคณะสงฆ์ไทยที่มีการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนาในด้านการสาธารณสงเคราะห์โดยคณะสงฆ์ไทยมุ่งเน้นการสร้างสัมมาชีพ
การดูแลผู้สูงอายุ โรงเรียนผู้สูงอายุในวัด การส่งเสริมเกษตรวิถีพุทธ
การรวมกลุ่มออมทรัพย์ (กลุ่มสัจจะสะสมทรัพย์) การดูแลรักษาป่า บวชป่า
การตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือประชาชนในคราวประสบภัยพิบัติต่างๆ และมุ่งเน้นให้มีการรักษาศีล
๕ ตามนโยบายโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕
การประชุมวิชาการการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นและสังคม(CSD สัมพันธ์) ระดับชาติ ครั้งที่ ๑๗ และนานาชาติ ครั้งที่ ๑
สถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ และคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ร่วมกับ สมาคมพัฒนาชุมชนท้องถิ่นและสังคม มูลนิธิมั่นพัฒนา วิทยาลัยพัฒนศาสตร์
ป๋วย อึ๊งภากรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ
ได้จัดงานประชุมวิชาการการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นและสังคม (CSD สัมพันธ์)
ระดับชาติ ครั้งที่ ๑๗ และนานาชาติ ครั้งที่ ๑ “คุณธรรมจริยธรรมกับการพัฒนาที่ยั่งยืน”
ขึ้นระหว่างวันที่ ๒๘ - ๓๑ มกราคม ๒๕๖๑ ณ
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทั้งในด้านกิจกรรม
การพัฒนาพื้นที่และงานวิชาการ และเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างคณาจารย์
นิสิต นักศึกษาสาขาพัฒนาชุมชน/สังคมและสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องทั่วประเทศ
ทั้งนี้มีผู้เข้าร่วมประชุมจำนวน ๑,๕๐๐ คน จาก ๔๕
มหาวิทยาลัย และ ๑๐ ประเทศ
การนำเสนอผลการวิจัยที่ประเทศอินเดีย
เมื่อวันที่ ๗-๑๐ มีนาคม ๒๕๖๑
สถาบันวิจัยพุทธศาสตร์โดยพระสุธีรัตนบัณฑิต ผู้อำนวยการ
ได้เดินทางไปร่วมประชุมสัมมนานานาชาติเรื่อง "The Changing Status of Women:
Myth and Reality with Special Reference to Northeast India "
และชมการแสดงทางวัฒนธรรมท้องถิ่น ซึ่งจัดขึ้นโดยวิทยาลัยในกำกับของรัฐคอคราชาร์ (Kokrajhar)
ณ เมืองคอคราชาร์ รัฐอัสสัม ประเทศอินเดีย จากนั้น
ได้เดินทางไปโบโดแลนด์ (Bodoland)
มีสถานที่สำหรับกิจกรรมทางพุทธศาสนาที่บริจาคโดยรัฐบาล
และเข้าเยี่ยมบ้านเรือนและร้านค้าชาวโบโดที่ถูกโจมตีบ่อยครั้งจากกลุ่มแบ่งแยกดินแดน
'แนวร่วมประชาธิปไตยแห่งชาติโบโดแลนด์' (NDFB) เนื่องจากพวกเขาพยายามต่อสู้เพื่อแยกดินแดนของชาวเผ่าโบโด
ซึ่งมีจำนวนประมาณ ๓.๓ ล้านคน หรือราว ๑๐%
ของประชากรทั้งหมดของรัฐอัสสัมออกจากรัฐนี้มานานหลายสิบปีแล้ว อย่างไรก็ตามทางการมีความประสงค์จะให้มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
จัดหาคนมาเรียนโดยจะยกพื้นที่ส่วนหนึ่งให้เป็นสถานที่เรียนและประกอบพิธีกรรมทางพุทธศาสนา
การมอบรางวัลผลงานวิจัยและนักวิจัยดีเด่น ประจำปี ๒๕๖๐
สถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ได้ดำเนินการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้เพื่อเพิ่มศักยภาพการวิจัยให้กับคณาจารย์และนักวิจัย และเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนานักวิจัย การสร้างสรรค์ผลงานวิจัย และยกย่องเชิดชูเกียรตินักวิจัย ร่วมกับคณะกรรมการพิจารณารางวัลผลงานวิจัยและนักวิจัยดีเด่น ได้ประชุมพิจารณาคัดเลือกผลงานวิจัยและนักวิจัยดีเด่น ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๑๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ และมีการมอบรางวัลผลงานวิจัยและนักวิจัยดีเด่น ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๐ จำนวน ๒๔ รางวัล ในการประชุมสัมมนาผลงานวิจัยนานาชาติ ครั้งที่ ๙ และการประชุมวิชาการระดับชาติ ครั้งที่ ๑ เรื่อง “วัฒนธรรมเชิงพุทธกับการพัฒนาที่ยั่งยืน” (Buddhist Culture and Sustainable Development) ระหว่างวันที่ ๒-๓ เมษายน ๒๕๖๑ ณ วิทยาลัยสงฆ์ศรีสะเกษ ต.น้ำคำ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ
การปฏิบัติศาสนกิจ ณ ประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศญี่ปุ่น
เมื่อวันที่ ๑๕-๒๔ เมษายน
๒๕๖๑ พระสุธีรัตนบัณฑิต, รศ.ดร. ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยพุทธศาสตร์
ได้เป็นคณะติดตามพระพรหมวชิรญาณ กรรมการมหาเถรสมาคม วัดยานนาวา
เพื่อเดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจ ณ ประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศญี่ปุ่น
ผลการปฏิบัติศาสนกิจสรุปได้ ดังนี้
๑. ได้มีการศึกษาดูงานเพื่อสร้าง Museum of
Buddhist Art ที่วัดนวมินทรราชูทิศ เมืองเรย์แฮม บอสตัน
โดยจะมีการวาดภาพและประติมากรรมพุทธศิลป์ร่วมสมัย รวมทั้งภาพในหลวงรัชกาลที่ ๙
เพื่อไว้ที่วัดเป็นการเฉลิมพระเกียรติสถานที่ประสูติของในหลวง
๒.
หารือความร่วมมือในการเรียนการสอนและการแลกเปลี่ยนนักศึกษา อาจารย์ นักวิจัย
และผู้ที่ทำงานด้านวัฒนธรรมของไทยกับวิทยาลัยในเมืองบอสตัน
โดยทางวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยสนใจด้านการฝึกสมาธิ เอเชียศึกษา
ให้วัดนวมินทรราชูทิศ เป็นแหล่งเรียนรู้
๓.
ให้มีความร่วมมือนานาชาติ ของคนไทย ลาว เวียดนาม กัมพูชา จีน และอื่น โดยใช้วัดนว มินทรราชูทิศ
เป็นสถานที่จัดกิจกรรมของคนเอเชีย เพื่อก้าวไปสู่การพัฒนาตามเป้าหมายของ UN
๔.
การปฏิบัติศาสนกิจที่ประเทศญี่ปุ่น
ได้ประสานกับพระสงฆ์ญี่ปุ่นเพื่อให้มาร่วมงานกับ มจร
และการสร้างวัดญี่ปุ่นในประเทศไทย
๕. ได้เรียนรู้เกี่ยวกับสังคม วัฒนธรรมเพื่อประยุกต์ในการวิจัยและการเรียนการสอนของ มจร และวัดไทย