วิสัยทัศน์ :
มหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาระดับโลก
VISION :
World Class University of Buddhism
วันอังคาร ที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๖๕
หน้าหลัก
เกี่ยวกับ
องค์สถาปนา
ประวัติมหาวิทยาลัย
สุภาษิต ปรัชญา ปณิธาน วิสัยทัศน์ และพันธกิจ
ตรามหาวิทยาลัย อักษรย่อ สี ต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย
ผู้บริหาร
อธิการบดี
รองอธิการบดี
คณบดี
ผู้อำนวยการ
ผู้ช่วยอธิการบดี
โครงสร้างมหาวิทยาลัย
โครงสร้างการบริหาร
สภามหาวิทยาลัย
สภาวิชาการ
คณะกรรมการบริหารบุคคล
คณะกรรมการการเงินและทรัพย์สิน
คณะกรรมการกำกับดูแลนโยบายและแผนพัฒนา
อำนาจหน้าที่
แผนยุทธศาสตร์
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
สมัครเรียน
หลักสูตร
คณะและส่วนงาน
คณะและบัณฑิตวิทยาลัย
สำนัก
สถาบัน
วิทยาเขต
วิทยาลัย
หน่วยวิทยบริการ
สถาบันสมทบ
วิจัย
นิสิต
ปฏิทินการศึกษาปริญญาตรี
ปฏิทินการศึกษาบัณฑิตศึกษา
ข้อบังคับว่าด้วยการศึกษา ระดับปริญญาตรี
ข้อบังคับว่าด้วยการศึกษา ระดับบัณฑิตศึกษา
ระบบทะเบียนนิสิต
การเรียนการสอนออนไลน์
วิดีโอ ออน ดีมานด์
ระบบวารสารออนไลน์
ระบบคลังเอกสารออนไลน์
หนังสือออนไลน์
สไลด์ออนไลน์
สมาคมศิษย์เก่า
ระบบทดสอบออนไลน์
e-Thesis
บุคลากร
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
กฎระเบียบ ข้อบังคับ มหาวิทยาลัย
ประกันคุณภาพการศึกษา
ระบบการประชุมอิเล็กทรอนิกส์
สารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ (LessPaper)
อีเมล์
ประมวลจริยธรรมสำหรับบุคลากร
สลิปเงินเดือน
ระบบสำนักงานออนไลน์
บริจาค
E-Service
จัดชื้อจัดจ้าง
ติดต่อ
ภาษา / Language
EN
TH
บทความวิชาการ
พระพุทธศาสนา
บทความวิจัย
สารนิพนธ์
ปรัชญาและศาสนาทั่วไป
พระพุทธศาสนากับศาสตร์สมัยใหม่
ภารกิจของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ มจร
19 ก.ค. 64 |
พระพุทธศาสนา
594
ผู้แต่ง :: พระเมธีธรรมาจารย์,รศ.ดร.
โดย พระเมธีธรรมาจารย์ (เจ้าคุณประสาร)
รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา มจร
กรรมการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพฝ่ายมหาวิทยาลัย
-------------------------
เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมาพระเดชพระคุณพระเทพปวรเมธี รศ.ดร. รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร ในฐานะประกรรมการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ซึ่งจดทะเบียนแล้ว ของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้เรียกประชุมสมาชิกทั้งหมดในระบบออนไลน์เป็นการประชุมใหญ่สามัญประจำปีตามข้อบังคับของกองทุนฯ
ผู้เขียนก็ได้เข้าร่วมประชุมในฐานะกรรมการกองทุนฝ่ายมหาวิทยาลัยที่ได้รับแต่งตั้งติดต่อกันมาหลายสมัยแล้ว
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐและเป็นนิติบุคคล ปัจจุบันมีบุคลากรในสังกัดจำนวน 1,240 รูป/คน มีนิสิตกว่า 25,000 รูป/คนมีวิทยาเขต 11 แห่ง วิทยาลัยสงฆ์ 25 แห่ง สถาบันสมทบในต่างประเทศ 5 แห่ง ในประเทศ 1 แห่ง
มหาวิทยาลัยได้รับการจัดสรรงบประมาณจากภาครัฐส่วนหนึ่งและเป็นรายได้ของมหาวิทยาลัยอีกส่วนหนึ่งในการบริหารกิจการของมหาวิทยาลัยตามพันธกิจหลัก คือ ผลิตบัณฑิต วิจัยและพัฒนา ส่งเสริมพระพุทธศาสนาและทำนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรม
ในส่วนของการบริหารงบประมาณ การคลังและสวัสดิการของบุคลากรนั้นมหาวิทยาลัยได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในการจัดอันดับการบริหารมหาวิทยาลัยในประเทศไทยล่าสุดนั้นมหาวิทยาลัยได้อันดับที่ 6 ในการบริการที่มีระบบธรรมาภิบาล
ในระบบสวัสดิการของผู้บริหาร คณาจารย์ และเจ้าหน้าที่นั้น (นิสิตแยกออกต่างหาก)มหาวิทยาลัยได้ประยุกต์มาจากหลักคำสอนในทางพระพุทธศาสนา คือ
หลักทิฏฐธัมมิกัตถ คือประโยชน์ 4 อย่าง หรือหัวใจเศรษฐี คือ อุ อา กะ สะ ประกอบด้วย
1.อุฏฐานสัมปทา มีความขยันหมั่นเพียรในการหาทรัพย์
2.อารักขสัมปทา รู้จักรักษาทรัพย์ ไม่ให้ทรัพย์ละลายไปในทางที่ไม่ถูกต้อง
3.คบกัลยาณมิตร คือคบคนดี ไม่คบคนชั่ว
4.สมชีวิตา อยู่อย่างพอเพียง ฉลาดรู้ว่า อะไรที่จะทำให้ทรัพย์เจริญงอกงาม อะไรคือทางหายนะหรือทางเสื่อมแห่งทรัพย์นั้นๆ
นอกจากนั้นพระพุทธองค์ยังคงสอนให้เราใช้สอยทรัพย์อีก 4 ส่วนคือ
1.ใช้หนี้เก่า หมายถึงการให้ การเลี้ยงดูพ่อ แม่ ครูอาจารย์หรือผู้มีพระคุณ ตอบแทนบุญคุณที่ท่านเลี้ยงดูอบรมสั่งสอนเรามา
2. ใช้หนี้ใหม่ หมายถึงให้ครอบครัว ลูก เมีย หรือผู้อยู่ในปกครองที่เราสร้างมาทีหลัง
3. ฝังไว้ หมายถึงการทำบุญ ทำทาน แบ่งปันสร้างสาธารณประโยชน์ การช่วยเหลือเกื้อกูลสังคม เพื่อนฝูงเป็นต้น
4. ทิ้งเหว หมายถึงการใช้จ่ายตามความจำเป็น เป็นการใช้จ่าย ซื้อหา ใช้สอยตามความจำเป็นในปัจจัยสี่ คือใช้ในสิ่งที่ต้องการแต่ต้องพึงระวังอย่าใช้จ่ายตามกิเลสตัณหา ต้องมีสติ สัมปชัญญะกำกับอยู่ตลอดเวลา
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อาศัยหลักธรรมนี้ได้วางแผนให้บุคคลากรของมหาวิทยาลัย ได้หาทรัพย์ ใช้จ่ายทรัพย์และรักษาทรัพย์ให้ถูกตามหลักธรรมในทางพระพุทธศาสนา คือ
1. หาทรัพย์ ต้องทำงาน มีความขยัน ซื่อสัตย์ จึงจะได้รับค่าตอบแทน เงินเดือน นิตยภัตและหรือการจะได้รับโบนัสขึ้นเงินเดือนในแต่ละปีด้วย
2. ใช้จ่ายทรัพย์ วางแผนให้บุคลากรใช้เงินอย่างประหยัด ถูกทางไม่ฟุ่มเฟือยและไม่เกินตัว
3. รักษาทรัพย์
3.1 ทรัพย์ที่ได้จากค่าตอบแทน เงินเดือน นิตยภัตโบนัสหรืออื่นๆ
3.2 ทรัพย์ส่วนบุคคลที่หลายท่านนำเอาไปฝากไว้กับธนาคาร สถาบันการเงิน สกรณ์ออมทรัพย์ ช.พ.ค. (การฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา)และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เป็นต้น
การหาทรัพย์ ใช้จ่ายและรักษาทรัพย์นี้ถ้าดูให้ดี การวางแผนให้ถูกจะประกอบด้วย
1. เงินปัจจุบัน
2. เงินใช้จ่ายระยะกลาง
3. เงินในอนาคต
คนที่รู้จักหลักการสำคัญ 3 ประการนี้จะไม่เดือดร้อน จะไม่ชักหน้าไม่ถึงหลัง ไม่วิ่งหากู้ยืม และจะไม่เดือดร้อน เหตุก็เพราะเขารู้จักแบ่งเงินออกเป็น 3 ส่วนดังกล่าวมาอย่างเป็นระบบ เราจะต้องมีความฉลาดในการครอบครองเงิน ครองทรัพย์และการใช้จ่ายเราจะได้ไม่เดือดร้อนทั้งในปัจจุบันและอนาคต
สำหรับเงินปัจจุบัน เมื่อมีรายได้เข้ามาต้องแบ่งเป็น ใช้หนี้เก่า ใช้หนี้ใหม่ ฝังไว้และทิ้งเหว ตามที่พระพุทธองค์ทรงสอนไว้และต้องบริหารให้ดี มีประสิทธิภาพ
เงินใช้จ่ายระยะกลาง จะต้องรู้ภาระตน ภาระรับผิดชอบ และภาระสังคมว่าในแต่ละอาทิตย์ แต่ละเดือน แต่ละไตรมาสและในแต่ละปีเรามีภาระหน้าที่ในทางการเงินมากน้อยแค่ใหน อย่างไร เราจะแบ่งปันไว้ประมาณเท่าไรจึงจะเหมาะสมกับคำว่า "พอเพียง" หรือ "เพียงพอ"สำหรับตัวเรา ฐานะอย่างเรา
เงินระยะยาวหรือเงินในอนาคตหมายถึงเงินที่เตรียมไว้ในวัยเกษียณ ในวัยชรา ในวันที่เราไม่มีกำลังจะทำงานเลี้ยงชีพแล้ว วันนั้นเราต้องพึ่งพาตัวเราเอง การจะหันไปพึ่งพาลูกหลานก็ไม่รู้จะได้แค่ใหน
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ซึ่งจดทะเบียนแล้วของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ก็คือการวางแผนให้บุคคลากรทุกท่านได้เก็บเงินไว้สำหรับอนาคตนั่นเอง โปรดจำไว้ว่ามหาวิทยาลัยได้วางแผนล่วงหน้าในการเก็บเงินทั้งของท่านเองและมหาวิทยาลัยได้สบทบให้อีกส่วนหนึ่งรวมกันเป็นเงินก้อนไว้เพื่ออนาคตสำหรับตัวท่านเอง ไม่ใช่เพื่อมหาวิทยาลัยหรือคนอื่นใดเลย มันคือเงินอนาคตสำหรับท่าน
นี่คือระบบสวัสดิการบุคลากรภายในของมหาวิทยาลัย นี่คือความห่วงใยในอนาคตที่มหาวิทยาลัยมีต่อท่าน ใครท่านใดไปชักเงินในอนาคตมาเป็นเงินปัจจุบัน ถือว่าท่านบริหารทรัพย์ตัวเองล้มเหลว อนาคตจะลำบาก
ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีที่ผ่านมามีสมาชิกบางท่านถามว่า
1. กองทุนนี้กู้ยืมได้ไหม
2. ทำไมการลาออกจากสมาชิกกองทุนแล้วอีกตั้ง 3 ปี จึงกลับมาสมัครเป็นสมาชิกได้อีก ช้ามากน่าจะสักหนึ่งปี
ถ้าท่านอ่านมาตั้งแต่ตนท่านจะเข้าใจดีว่ากองทุนนี้คือกองทุนสวัสดิการ คือเงินออมเพื่ออนาคตของท่านภายหลังการเกษียณ กองทุนถูกบังคับโดยกฎหมาย ข้อบังคับกองทุนฯและมีวัตถุประสงค์ที่สำคัญคือเป็นกองทุนสำหรับเงินออม เงินก้อน ในวันที่ท่านเกษียณอายุการทำงาน ไม่ใช่กองทุนที่มาทำให้ท่านเป็นหนี้ ก่อหนี้และใช้หนี้ และสมมติว่าท่านเดือดร้อนหรือจำเป็นที่จะต้องกู้จริงๆมหาวิทยาลัยก็จัดให้มีสหกรณ์ออมทรัพย์ฯให้ท่านได้กู้ยืมอยู่แล้วกรณีเป็นสมาชิก แต่ถ้ามีที่ให้กู้มีที่ให้หวังมากเท่าไดก็ยิ่งพอกพูนหนี้สินให้ท่านมากขึ้นเป็นเงาตามตัว หนี้ก้อนใหญ่ก้อนโตแต่ศักยภาพในการใช้หนี้ไม่เพียงพอ เงินเดือนน้อย รายใด้ต่ำโอกาสล้มละลายสูง ลองหันมาอาศัยพึ่งพาการบริหารเงินตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาจะเป็นทางออกของชีวิตที่ดีกว่า
ประการถัดมา เมื่อลาออกจากสมาชิกกองทุนฯรับเงินไปใช้แล้ว ข้อบังคับเขียนไว้ว่า อีก 3 ปีจึงจะกลับมาสมัครเป็นสมาชิกได้ ทำไมไม่แค่ปีเดียว
เรื่องนี้สำคัญ สำคัญมาก ตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนฯสามารถให้กองทุนนั้นๆยืดหยุ่นได้ตามควรแก่กรณี จึงมีหลายกองทุนเมื่อสมัครใจลาออกไปแล้วจะด้วยเหตุผลและความจำเป็นอย่างไรก็ตามสมาชิกท่านนั้นจะไม่สามารถกลับมาเป็นสมาชิกกองทุนฯได้อีกต่อไป คือออกแล้วออกเลย ในหลายกองทุนก็ให้เว้นวรรคหลายปีมาก ในส่วนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ให้เว้นวรรค 3 ปีจึงจะสามารถกลับมาสมัครเป็นสมาชิกกองทุนฯได้อีกครั้ง
เหตุผลของกองทุนอื่นๆและรวมทั้งกองทุนฯของ มจร ที่ทำให้การออกยาก ลำบาก และการกลับเข้ามาในรอบ สองรอบสามยิ่งลำบากมากขึ้น ก็เพราะต้องการให้ท่านสมาชิกมีระเบียบวินัยในการเงินการคลัง มีความอดทน รู้จักวางแผนการเงินให้ถูกต้อง จะได้ไม่ลำบากตอนแก่ อย่าไปดึงเอาเงินในอนาคต อย่าละลายก้อนเงินในวัยเกษียณ อย่าไปเอาเงินก้อนตัวเองในยามชรามาละลายใช้ในปัจจุบัน
นอกจากเหตุผลดังกล่าวแล้ว กองทุนฯกองทุนยังไม่ประสงค์จะให้เข้าๆออกๆแบยง่ายๆ สบายๆตามใจฉัน เพราะการเข้าง่าย ออกง่ายก็จะเป็นแรงกระตุ้นให้ท่านทำผิดวัตถุประสงค์ของกองทุนฯคือเป็นแรงจูงใจในการที่จะทำให้ท่านได้นำเงินในอนาคตมาใช้ในปัจจุบันได้ง่ายขึ้นอีกด้วย ดังนั้นกองทุนฯทุกกองทุนฯจึงจำเป็นต้องเคร่งครัดในเรื่องดังกล่าวนี้เป็นพิเศษ
ดังนั้น การลาออกจากกองทุนฯและการกลับเข้ามาเป็นสมาชิกของกองทุนฯในรอบที่สองที่สมาชิกบางท่านดูว่ายากนั้นก็เพราะมหาวิทยาลัยพยายามจะดูแลสมาชิก วางอนาคตและวางแผนการเงินไว้ให้ ไม่อยากให้บุคลากรของมหาวิทยาลัยต้องตกระกำลำบากในวัยเกษียณอายุการทำงานนั่นเอง
วันที่ 5 กรกฎาคม 2564
#เจ้าคุณประสาร
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
🍪 เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์
นโยบายการคุ้มคลองข้อมูลส่วนบุคคล
ยอมรับทั้งหมด