ข่าวประชาสัมพันธ์
มหาจุฬาฯ ประชุมจัดทำสหบรรณานุกรมตำราทางพระพุทธศาสนาครั้งแรกของโลก
11 ต.ค. 53 | ข่าวมหาวิทยาลัย
370
ข่าวมหาวิทยาลัย
มหาจุฬาฯ ประชุมจัดทำสหบรรณานุกรมตำราทางพระพุทธศาสนาครั้งแรกของโลก
วันที่ ๑๑/๑๐/๒๐๑๐ เข้าชม : ๘๒๘๕ ครั้ง

  
ระหว่างวันที่ ๑๐-๑๒ ตุลาคม  ๒๕๕๓  มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยร่วมกับสมาคมมหาวิทยาลัยพุทธศาสนานานาชาติ (International Association of Buddhist Universities) ได้จัดประชุมเพื่อพัฒนาโครงการจัดทำสหบรรณานุกรมตำราทางพระพุทธศาสนาร่วมกัน  (Union Catalogue of Buddhist Texts - UCBT) ครั้งแรกของโลก ณ ห้อง ๔๐๑ อาคารสำนักงานอธิการบดี และห้องเรียนชั้น ๔ อาคารเรียนรวม มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย  อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา  การจัดประชุมครั้ง ได้มีนักวิชาการทางพุทธศาสนาทั่วโลกในมหาวิทยาลัยต่างๆ เช่น อ๊อกฟอร์ด อังกฤษ  นาโรปะ อเมริกา เกียวโต ญี่ปุ่นกัลยาณิยะ ศรีลังกา และเวียนนา ออสเตรีย จำนวนกว่า ๓๐ รูป/คน จาก  ๑๖ ประเทศ เข้าร่วมประชุม เป้าหมายของการประชุมครั้งนี้เพื่อให้ได้รายการตำราทางพระพุทธศาสนา ๔ ภาษาหลักได้แก่ ภาษาบาลี สันสกฤต จีน ธิเบต  ที่สามารถออนไลน์ได้ทั่วโลกในปี ๒๕๕๔

         "โครงการนี้เป็นโครงการสร้างฐานข้อมูลร่วมกันระหว่างวิทยาลัย มหาวิทยาลัย และองค์กรพระพุทธศาสนาครั้งแรกของโลก   โดยจัดเก็บรายการบรรณานุกรมทรัพยากรสารสนเทศ ทั้งคัมภีร์ หนังสือ วารสาร และสื่อโสตทัศนวัสดุที่มีอยู่ในฐานข้อมูลแหล่งเรียนรู้ทางพระพุทธศาสนาต่างๆ ทั่วโลก  เพื่อประโยชน์ในการใช้ทรัพยากรร่วมกัน ลดการซ้ำซ้อนในการจัดทำรายการบรรณานุกรม และใช้ประโยชน์ในการยืมหนังสือ หรือเข้าถึงข้อมูลทางดิจิทัลอันจะทำให้เกิดความสะดวก ง่ายในการเข้าถึง และค้นคว้า" ศาสตราจารย์ ดร.พระธรรมโกศาจารย์กล่าว

          ในส่วนของการทำงานโครงการนี้จะแบ่งคณะทำงานออกเป็นสองชุด คือ (๑) คณะทำงานด้านวิเคราะห์ทรัพยากร (Catalog) ที่เป็นแหล่งข้อมูลเบื้องต้น (Primary Source) และแหล่งข้อมูลระดับรอง (Secondary Source) เพื่อรวบรวม และจัดกลุ่มแหล่งข้อมูลเหล่านี้ให้เป็นระบบมากยิ่งขึ้น (๒) คณะทำงานด้านระบบ (System) คณะทำงานชุดนี้จะทำหน้าที่ในการออกแบบ และสร้างความเชื่อมโยงข้อมูลต่างๆ  เพื่อให้ง่ายต่อการอ้างอิง และค้นคว้า   โดยช่วงแรกคณะกรรมการชุดที่ ๑ จาก ๑๖ ประเทศได้ร่วมกันวิเคราะห์ทรัพยากร (Catalog) เพื่อจะได้นำข้อมูลดังกล่าวไปปรับปรุงให้เป็นระบบสารสนเทศมากยิ่งขึ้น

          สิ่งที่จะเป็นประโยชน์สำหรับบุคคลทั่วไปคือ นักศึกษา นักวิชาการด้านพระพุทธศาสนาและบุคคลทั่วไป สามารถค้นหาตำรา หรือคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนาที่ต้องการในห้องสมุดของวิทยาลัย หรือมหาวิทยาลัยทั่วโลกว่ามีหนังสือเล่มที่ต้องการอยู่ที่ได้บ้าง โดยไม่ต้องเข้า Website ของแต่ละห้องสมุด เป็นการประหยัดเวลา และสะดวกในการค้นหา เมื่อทราบแหล่งที่มาของตำรา หรือคัมภีร์ที่ต้องการแล้วย่อมสามารถที่จะใช้บริการยืมหนังสือที่เป็นไฟล์ดิจิทัล และไฟล์เอกสารระหว่างห้องสมุดของแต่ละสถาบันไปที่ห้องสมุดที่มีหนังสือดังกล่าวได้

IABU : รายงาน


แหล่งข่าว : ส่วนเทคโนโลยีสารสนเทศ
Print This Page    Sent to Friend
แสดงความคิดเห็น