ข่าวประชาสัมพันธ์
เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ เยี่ยมมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
20 ส.ค. 54 | ข่าวมหาวิทยาลัย
348
ข่าวมหาวิทยาลัย
เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ เยี่ยมมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
วันที่ ๒๐/๐๘/๒๐๑๑ เข้าชม : ๙๗๑๒ ครั้ง

๑๖ สิงหาคม ๒๕๕๔   เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (อุปเสณมหาเถร)ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ได้เมตตาเดินทางมาเยี่ยมชมมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย โดยมีผู้บริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าที่นิสิต และนักเรียน ทั้งจากส่วนกลาง วิทยาเขต วิทยาลัยสงฆ์ ห้องเรียน หน่วยวิทยบริการ โรงเรียนบาลีสาธิตศึกษา โรงเรียนบาลีเตรียมอุดมศึกษา กว่า ๓,๐๐๐ รูป/คน ถวายการต้อนรับ
 
                   พระธรรมโกศาจารย์ กล่าวรายงานต่อเจ้าประคุณสมเด็จฯ ว่า“มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งคณะสงฆ์ไทย ที่สมเด็จพระบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬลงกรณ์  พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ได้ทรงสถาปนาขึ้น ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์  กรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นสถานศึกษาพระไตรปิฎกและวิชาชั้นสูง  สำหรับพระภิกษุสามเณรและคฤหัสถ์  เมื่อปี ๒๔๓๐ เริ่มเปิดดำเนินการศึกษาในรูปแบบของมหาวิทยาลัย ตั้งแต่ปี ๒๔๙๐  เป็นต้นมา และในปี ๒๕๔๐  รัฐบาล ได้ตราพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยให้สถาบันการศึกษาแห่งนี้ มีสถานะเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐและเป็นนิติบุคคล
           

        วันที่  ๙ กรกฎาคม    ๒๕๔๒  คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัย ได้เฝ้าสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร รับพระราชทานที่ดินจำนวน  ๘๔ ไร่ ๑ งาน ๓๗ ตารางวา ณ ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งนายแพทย์รัศมี – คุณหญิงสมปอง  วรรณิสสร  ได้ทูลเกล้าฯ ถวายแด่มหาวิทยาลัยเพื่อสร้างที่ทำการแห่งใหม่ 



                    จากนั้น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมารได้เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์โครงการก่อสร้างที่ทำการแห่งใหม่ของมหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๔๒ และนับแต่นั้นมา มหาวิทยาลัยได้ดำเนินการก่อสร้างที่ทำการแห่งใหม่ พร้อมทั้งจัดซื้อที่ดินเพิ่มเติม  ปัจจุบันมหาวิทยาลัยมีเนื้อที่ทั้งหมด รวม ๓๒๓ ไร่
                    อาคารที่มหาวิทยาลัยได้ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จประกอบด้วย 
                    ๑.  อาคารสำนักงาน
                    ๒. อาคารพิพิธภัณฑ์พระไตรปิฎก เมื่อสร้างแล้วเสร็จ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้โปรดเมตตามาเป็นประธานในพิธีประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ณ อาคารหลังนี้ เมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๘
                    ๓. อาคารสำนักงานอธิการบดี
 ๔. อาคารสำนักหอสมุดและเทคโนโลยีสารสนเทศ
  ๕. อาคารหอฉัน
  ๖. อาคารหอพักอาคันตุกะ๙๒ ปี ปัญญานันทะ
  ๗. อาคารมหาจุฬาบรรณาคาร
  ๘. อาคารเรียนรวม ซึ่งรองรับผู้เรียนได้ ๑๐,๐๐๐ รูป/คน
  ๙. อาคารหอพักนิสิต
  ๑๐. อาคารหอประชุม มวก. ๔๘ พรรษา หลังนี้ซึ่งรองรับผู้เข้าประชุมได้ ๓,๕๐๐ รูป/คน
                  ๑๑. อุโบสถกลางน้ำซึ่งรองรับพระสงฆ์ลงทำสังฆกรรมได้ ๔,๐๐๐ รูป  รวมงบประมาณค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ใช้จ่ายไปแล้วทั้งสิ้น สองพันล้านบาท
   ในปี ๒๕๕๔ นี้ นายแพทย์รัศมี – คุณหญิงสมปอง  วรรณิสสรกำลังดำเนินการก่อสร้างอาคารหอวิปัสสนาธุระซึ่งมีท่านเจ้าคุณพระธรรมสิทธินายกเป็นประธานคณะกรรมการดำเนินการก่อสร้างเพื่อถวายมหาวิทยาลัย

                    นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยได้เริ่มดำเนินการสร้างวัดประจำมหาวิทยาลัยและเริ่มก่อสร้างวิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติสำหรับเป็นที่เล่าเรียนของชาวต่างประเทศและเป็นที่ฝึกอบรมพระธรรมทูตสายต่างประเทศ โดยจะใช้งบประมาณในการก่อสร้างอีกสองพันห้าร้อยล้านบาท

                    มหาวิทยาลัยได้ย้ายที่ทำการจากวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ กรุงเทพมหานคร  มายังที่ทำการแห่งใหม่ ณ ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย  จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเมื่อวันที่  ๑ ตุลาคม    ๒๕๕๑    แต่ยังไม่ได้ประกอบพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ

                    ต่อมาเมื่อวันที่  ๓  ธันวาคม  ๒๕๕๓  สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ  สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ทรงประกอบพิธีเปิดที่ทำการแห่งใหม่ของมหาวิทยาลัย ณ  ตำบลลำไทร  อำเภอวังน้อย  จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 
      ปัจจุบันนิสิตของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย  ทั้งส่วนกลาง วิทยาเขต วิทยาลัยสงฆ์ ห้องเรียนและสถาบันสมทบทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งสิ้น ๑๙,๐๐๐ รูปคน โดยที่เดินทางมาถวายการต้อนรับพระเดชพระคุณเจ้าประคุณสมเด็จฯ ในวันนี้เป็นส่วนหนึ่งของนิสิตทั้งหมดเท่านั้น”

                   ในโอกาสนี้ เจ้าประคุณสมเด็จฯ เมตตาประทานโอวาทใจความว่า “รู้สึกดีใจ ที่เห็นสถาบันการศึกษาของคณะสงฆ์ไทยมีความเจริญรุ่งเรืองสามารถกล่าวกับชาวพุทธทั่วโลกได้ว่า เรามีสถาบันการศึกษา ที่มีพื้นที่เป็นของเราเอง มีอาคารสถานที่ที่กว้างใหญ่ ได้รับการยอมรับว่าเป็นสถาบันการศึกษาของคณะสงฆ์ไทย ทั้งนี้เพราะความเสียสละของพระมหาเถระและทุกฝ่าย โดยเฉพาะการที่มหาวิทยาลัยมีพระธรรมโกศาจารย์ เป็นอธิการบดี ซึ่งถือเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ เป็นที่ยอมรับของชาวพุทธทั่วโลก และนำชื่อเสียงมาสู่มหาวิทยาลัยและคณะสงฆ์ไทยการที่จะให้คณะสงฆ์มีความเจริญรุ่งเรืองจะต้องอาศัยการที่พระภิกษุ-สามเณรศึกษาเล่าเรียนอย่างเต็มความสามารถ ขอให้พระนิสิต นักศึกษา นักเรียน ตั้งใจใฝ่รู้จากครูบาอาจารย์อย่างเต็มที่ เพื่อนำพาการศึกษาคณะสงฆ์ให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้น”


                   เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ เป็นพระมหาเถระเพียบพร้อมด้วยเมตตาธรรม เอาใจใส่เรื่องการศึกษา มีความเกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยเป็นอย่างมาก เคยตำรงค์ตำแหน่งเลขาธิการมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เป็นพระมหาเถระที่ชาวมหาจุฬาฯ เคารพมากที่สุด ได้เมตตาในงานสำคัญๆ ของมหาวิทยาลัยเป็นประจำ กว่า ๒ ปีแล้วที่เจ้าประคุณสมเด็จอาพาธ ไม่ได้มาเยี่ยมมหาวิทยาลัย แต่ก็ติดตามรับทราบการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยอย่างสม่ำเสมอ การที่เจ้าประคุณสมเด็จฯ มาเยี่ยมมหาจุฬาฯ ครั้งนี้ ถือเป็นประวัติศาสตร์ของชาวมหาจุฬา

                  ในโอกาสอันเป็นมงคลที่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯได้โปรดเมตตามาเยี่ยมชมที่ทำการแห่งใหม่ของมหาวิทยาลัยในครั้งนี้ ผู้บริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าที่นิสิตและนักเรียนได้เจริญพระพุทธมนต์ถวายเจ้าประคุณสมเด็จฯ เพื่อให้มีสุขภาพพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์ เป็นที่พึ่งของคณะสงฆ์ พุทธศาสนิกชนและมหาวิทยาลัยไปไปนานเท่านาน 

                    จากนั้น เจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้ปรดประทานโอวาทอำนวยพรแด่ผู้บริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ นิสิตและนักเรียนของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ก่อนเดินทางกลับเจ้าประคุณสมเด็จยังได้เดินทางไปชมอุโบสถกลางน้ำ ซึ่งเจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้เป็นองค์ประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์สร้าง โดยมี พระธรรมโกศาจารย์  อธิการบดี มจร พระธรรมวิมลโมลี ในฐานะผู้สืบสานปณิธานของหลวงพ่อปัญญานันทะ ในการสร้างอุโบสถกลางน้ำและผู้บริหารของมหาวิทยาลัยติดตามไปที่อุโบสถกลางน้ำแห่งนี้

                   การที่เจ้าประคุณสมเด็จฯ มาเยี่ยมชมมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยในครั้งสร้างความประทับใจ แรงบันดาลใจ สวัสดิ์มงคล แก่ผู้บริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ นิสิตและนักเรียนอย่างมาก

รายงานโดยพระมหาศรีทนต์ สมจาโร ผู้อำนวยการส่วนหอสมุดกลา

ฝ่ายประชาสัมพันธ์และเผยแผ่/ภาพ

  

 


แหล่งข่าว : ส่วนเทคโนโลยีสารสนเทศ
Print This Page    Sent to Friend
แสดงความคิดเห็น