เมื่อวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2568 มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) จัดงานฉลองครบรอบ 138 ปี แห่งการสถาปนา ณ อาคาร มวก. 48 พรรษา โดยมี พระพรหมวัชรธีราจารย์, ศ.ดร. อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เป็นประธานในพิธี
ภายในงานจัดให้มี พิธีบวงสรวงพระพุทธโสธรจำลอง ณ อาคาร มวก 48 พรรษา พิธีบวงสรวงพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ณ บริเวณอาคาร ดร.ยุวรี เอื้อกาญจนวิไล (พิพิธภัณฑ์พระไตรปิฎก)
พิธีอัญเชิญรูปเหมือนพระพิมลธรรม (ช้อย ฐานทตฺตมหาเถร) องค์ปฐมนายกสภามหาวิทยาลัย และพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ผู้ทรงสถาปนามหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ไปยังอาคาร มวก 48 พรรษา โดย อัญเชิญจากอาคาร ดร.ยุวรี เอื้อกาญจนวิไล (พิพิธภัณฑ์พระไตรปิฎก)
พิธีเปิดนิทรรศการชมรมนิสิตนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พร้อมทั้งเยี่ยมชมนิทรรศการผลงานและกิจกรรมของชมรมนิสิต มีชมรมนิสิตนานาชาติจากหลายประเทศ เข้าร่วมจัดแสดงนิทรรศการกว่า 16 ชมรม นำเสนอผลงาน กิจกรรม และวัฒนธรรมที่สะท้อนถึงความหลากหลายทางเชื้อชาติ ศาสนา และวัฒนธรรม อันเป็นการส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างนิสิตนานาชาติ และสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ร่วมกันภายในมหาวิทยาลัย การจัดนิทรรศการครั้งนี้นับเป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้นิสิตนานาชาติได้แสดงศักยภาพ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และเสริมสร้างความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นในสังคมพหุวัฒนธรรมของมหาจุฬาฯ
มอบโล่ประกาศเกียรติคุณและโล่นักวิจัยดีเด่น พิธีเจริญพระพุทธมนต์ และพิธีทอดผ้าป่ามหากุศลเพื่อสมทบกองทุนพัฒนามหาวิทยาลัย โดยได้รับความร่วมมือจากผู้บริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ และนิสิตทั้งชาวไทยและนานาชาติ เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงสถาปนาขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นสถานศึกษาพระไตรปิฎกและวิชาชั้นสูงสำหรับคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย เมื่อ พ.ศ. 2430 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อทรงเสด็จประภาสยุโรปพระองค์ก็ทรงเอาแบบอย่างในการพัฒนาประเทศมาใช้ในประเทศไทย ทรงยกระดับการพัฒนาในทุกๆด้านรวมทั้งระบบการศึกษาในแบบสมัยใหม่ด้วย ทรงเห็นถ้าจะพัฒนาอะไรให้เริ่มที่คน คนหรือประชากรเป็นศูนย์กลางของการพัฒนาอย่างแท้จริงและเมื่อจัดการศึกษาให้พสกนิกรได้ศึกษาเล่าเรียนเพื่อพัฒนาตนเองเพื่อนำไปสู่การพัฒนาประเทศตามแบบอย่างนานาอารยประเทศแล้ว ในส่วนของคณะสงฆ์คือพระสงฆ์สามเณรจะทำอย่างไร เมื่อชาวบ้านมีความรู้ มีการศึกษาที่ดีแล้วพระสงฆ์สามเณรก็ควรที่จะได้รับการดูแลเอาใจใส่และได้รับพระบรมราชูอุปถัมภ์ด้วยเช่นกัน ไม่เช่นนั้นแล้วพระสงฆ์จะไปเทศน์ ไปสอนชาวบ้านให้เขาเคารพนับถือได้อย่างไร จึงถือเป็นบ่อเกิดและแนวคิดในการสถาปนามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เพื่อพัฒนาศักยภาพของคณะสงฆ์ไทย
คณะสงฆ์ได้จัดการศึกษาในแบบอย่างที่เป็นอัตลักษณ์ เอกลักษณ์ของตัวเองมายาวนาน จนมีประวัติการต่อสู้ ดิ้นรน ปรากฏร่องรอยให้เห็นเป็นแบบอย่าง เพื่ออนุชนรุ่นหลังจะได้ศึกษาและเรียนรู้ ล่วงมาจนถึง พ.ศ. 2540 รัฐบาลจึงได้ตราพระราชบัญญัติ โดยความยินยอมของรัฐสภาให้มหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐและเป็นนิติบุคคล
การจัดงานครบรอบ 138 ปี ครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณขององค์พระผู้สถาปนาแล้ว ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยในการสืบสานปณิธานการศึกษาของคณะสงฆ์ให้คงอยู่คู่สังคมไทยและก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกอย่างมั่นคง